วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประวัติ

วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด
ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็น ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคง แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมายของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

[แก้] นักบุญวาเลนไทน์

นักบุญวาเลนไทน์
วันนักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine's Day) หรือที่เป็นที่รู้จักว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันประเพณีที่คู่รักบอกให้กันและกันทราบเกี่ยวกับความรักของพวกเขา โดยการส่งการ์ดวาเลนไทน์ ซึ่งโดยมากจะไม่ระบุชื่อ วันนี้เริ่มเกี่ยวข้องกับความรักแบบชู้สาวในช่วงยุค High Middle Ages เรื่องของ วันวาเลนไทน์ นี้ มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ณ กรุงโรม หรืออาณาจักรโรมัน ในยุคของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) โดยที่จักรพรรดิพระองค์นี้ มีนิสัยชอบกดขี่ข่มเหงผู้อื่น เขาได้สั่งให้ชาวโรมันทุกคน สักการะนับถือพระเจ้า 12 องค์ โดยผู้ที่ขัดขืนคำสั่งจะถูกทำโทษ รวมทั้งห้ามยุ่งเกี่ยวกับพวกคริสเตียนด้วย แต่นักบุณวาเลนตินุส (Valentinus) - valentine มีความเลื่อมใส ศรัทธาต่อพระคริสมาก เขาได้กล่าวไว้ว่า แม้กระทั่งความตายก็ไม่สามารถ เปลี่ยนความคิดของเขาได้ เขาจึงได้ถูกขังคุก
ช่วงอาทิตย์สุดท้ายในชีวิตของเขานั้น ได้ มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น ขณะที่เขาถูกคุมขังอยู่นั้น ผู้คุมขังได้ขอให้วาเลนตินุส สอนลูกสาวเขาซึ่งตาบอดด้วย จูเลียเป็นคนสวยแต่น่าเสียดายที่เธอตาบอดตั้งแต่แรกเกิด วาเลนตินุสได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ต่าง ๆ สอนเลข และเล่าเรื่องพระเจ้าให้เธอฟัง จูเลีย สามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ได้ โดยคำบอกเล่าของ วาเลนตินุส เธอเชื่อใจเขาและเธอมีความสุขมากเมื่ออยู่กับเขา
วันหนึ่งจูเลียถามวาเลนตินุสว่า “ถ้าเราอธิษฐาน พระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินเราไหม” เขาตอบ “พระองค์เจ้า จะได้ยินเราแน่นอน ท่านได้ยินเราทุกคน” จูเลียกล่าว “ท่านทราบหรือไม่ว่า ข้าอธิษฐานขออะไรทุก ๆ เช้า ทุก ๆ เย็น....ข้าหวังว่า ข้าจะได้มองเห็นโลก เห็น ทุก ๆ อย่างที่ท่านเล่าให้ข้าฟัง” วาเลนตินุสจึงบอก “พระเจ้ามอบแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน เพียงแค่เรามีความเชื่อมั่นในพระองค์ท่าน เท่านั้นเอง”
จูเลีย ผู้ซึ่งมีความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า จึง ได้คุกเข่า กุมมือ อธิษฐานพร้อมกับวาเลนตินุส และในขณะนั้นเอง ก็ได้มีแสงสว่างลอดเข้ามาในคุก และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้น จูเลียค่อย ๆ ลืมตา พระเจ้า.....เธอมองเห็นแล้ว!!!!! เขาและเธอจึงกล่าวขอบคุณต่อพระเจ้า และเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนี้ ได้แพร่หลายไปทั่วราชอาณาจักร
ในคืนก่อนที่วาเลนตินุสจะสิ้นชีวิต โดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า - From Your Valentine - เข้าสิ้นชีพในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้น ศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินุส แต่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพอันสวยงาม
== การส่งดอกไม้วันวาเลนไทน์ =มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้ยังใช้สื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย=* กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ"
  • กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
  • กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน
  • กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน

สรุป 10 เหตุการณ์ที่คนทั่วโลกต้องจดจำ ประจำปี 2010

สรุป 10 เหตุการณ์ที่คนทั่วโลกต้องจดจำ ประจำปี 2010






เหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย

แผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวในเฮติ



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สารานุกรม วิกิพีเดีย ,  wikio.comYoutube.com , ไทยโพสต์, สำนักข่าว Rede Globo , EPA ,  muslimhands.org , ไทยโพสต์ , ytn.co.kr , , coedmagazine.com , fifafantasia.com , คุณ PanPingSTUDIO.com , youtube.com , วิกิพีเดีย , heritage.org , realclearworld.com


         เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา นิตยสารไทม์ ได้เปิดเผย 10 สุดยอดเหตุการณ์แห่งปี 2010 ที่กลายเป็นที่จดจำของคนทั่วโลก โดยจัดอันดับ 10 เหตุการณ์เด็ดประจำปี 2010 ดังนี้

แผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวในเฮติ
แผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวในเฮติ


         1. แผ่นดินไหวในเฮติ เหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเฮติ ถือเป็นโศกนาฏกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เหตุการณ์ภัยพิบัติดังกล่าวได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในประเทศเฮติ โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณกว่า 250,000 คน บาดเจ็บอีกกว่า 300,000 คน ขณะที่ประชากรเฮติอีกล้านกว่าคนสูญเสียบ้านและทรัพย์สินจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในที่สุด ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้สิ้นสุดลง ทั่วโลกก็พร้อมใจกันร่วมมือให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนหรือลำเลียงของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ส่งตรงสู่ผู้ได้รับความเดือดร้อน รวมถึงประเทศไทยที่ได้ให้ความช่วยเหลือชาวเฮติ โดยระดมเงินช่วยเหลือกว่า 31 ล้านบาท และข้าวสารอีกกว่า 2 ล้านตัน อีกทั้งยังมีข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ ส่งไปยังผู้ประสบภัยชาวเฮติเป็นจำนวนมาก



วิกิลีกส์


         2. วิกิลีกส์ทำลายโลก แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งกลายมาเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วโลกได้ไม่นาน แต่กรณีเว็บไซต์วิกิลีกส์เดินหน้าแฉข้อมูลลับสหรัฐฯ อย่างไม่หยุดยั้ง ก็กลายมาเป็นเหตุการณ์แห่งปีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะ วิกิลีกส์ ใช้เทคโนโลยีและความเก่งกาจทางคอมพิวเตอร์ ล้วงลับข้อมูลที่ไม่ควรจะเปิดเผย มาเปิดเผยต่อสาธารณชน แปลงเว็บไซต์ให้เป็นฐานข้อมูลความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จนสร้างความวุ่นวายให้กับโลกได้มากมาย ขณะที่เว็บไซต์วิกิลีกส์ยังคงเดินหน้าเผยแพร่ข้อมูลต่อ แม้ว่านายจูเลียน อาสซานจ์ จะถูกทางการสหรัฐออกหมายจับและตามตัวอยู่ก็ตาม และดูเหมือนว่าประเด็นนี้ยังเป็นประเด็นที่คาบเกี่ยวระหว่างปี จนอาจจะกลายเป็นเหตุการณ์เด่นในปีหน้าอีกปีก็ได้

คนงานชิลี

คนงานเหมืองชิลี


 
ช่วย คนงานเหมืองชิลี
ภารกิจช่วย คนงานเหมืองชิลี
แคปซูลช่วยชีวิต

ภารกิจช่วย คนงานเหมืองชิลี

หัวหน้าคนงานเหมืองชิลี ถูกช่วยออกมาเป็นคนที่ 33

หัวหน้า
คนงานเหมืองชิลี ถูกช่วยออกมาเป็นคนที่ 33


          3. เหตุการณ์เหมืองชิลีถล่มเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้คนงานเหมืองทั้งหมด 33 ชีวิต ติดอยู่ใต้เหมืองที่มีความลึกเกือบ 700 เมตร แต่สุดท้าย ทางทีมช่วยเหลือก็ได้ขุดเจาะอุโมงค์ลงไปช่วยชีวิตคนงานเหมืองได้สำเร็จ โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 33 วัน ซึ่งในตอนนั้นแม้ว่าภารกิจกู้ชีวิตคนงานจะเสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวดังระดับโลกมาให้ฮือฮากันอีก เมื่อตัวเลข 33 ได้มาเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์นี้อย่างไม่น่าเชื่อ จนกลายเป็นตัวเลขนำโชคไปทั่วโลกในขณะนั้น

น้ำท่วม ปากีสถาน

น้ำท่วม ปากีสถาน



น้ำท่วม ปากีสถาน
น้ำท่วม ปากีสถาน

น้ำท่วม ปากีสถาน


         4. เหตุการณ์น้ำท่วมในปากีสถาน เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยภัยพิบัติครั้งนั้นได้คร่าชีวิตชาวปากีสถานไปกว่า 2,000 ราย ได้รับผลกระทบอีกกว่า 20 ล้านคน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโรคระบาดหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอีกกว่า 100,000 คนอีกด้วย ถือเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปีเลยทีเดียว



เหตุการณ์เกาหลีเหนือยิงถล่มเกาะเกาหลีใต้

เหตุการณ์เกาหลีเหนือยิงถล่มเกาะเกาหลีใต้


         5. เหตุการณ์เกาหลีเหนือยิงถล่มเกาะเกาหลีใต้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อเกาหลีเหนือได้ยิงปืนใหญ่กว่า 50 นัด ตกลงบนเกาะยอนเปียง เขตน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความเสียหาย ทำลายบ้านเรือนของประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้ทหารเกาหลีใต้เสียชีวิต 1 รายและมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย อีกทั้งยังทำให้ชาวเกาหลีใต้เสียขวัญ อพยพออกจากเกาะยอนเปียงเป็นจำนวนมาก



 ฟุตบอลโลก 2010


ฟุตบอลโลก 2010




กองเชียร์ ฟุตบอลโลก2010



กองเชียร์ ฟุตบอลโลก2010

         6. ฟุตบอลโลกที่แอฟริกา เริ่มต้นอย่างงดงามและจบลงไปอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับมหกรรมฟุตบอลโลกครั้งที่ 19 ครั้งนี้ถือว่าคึกคักมากกว่าครั้งไหน ๆ เพราะมีตัวสร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลกอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นั่นคือ เจ้าหมึกพอลที่เข้ามามีบทบาทกับแฟนบอลทั่วโลก ด้วยความสามารถพิเศษของมันที่สามารถทำนายผลบอลได้อย่างแม่นยำ แม้ว่ามันจะตายลงหลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ตาม งานนี้ดูเหมือนจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมการเชียร์บอลขึ้นมาใหม่ ด้วยการใช้สัตว์เข้ามาทำนาย รับรองได้ว่าฟุตบอลโลกครั้งหน้า ต้องมีสัตว์เข้ามาใช้ในการทำนายอีกแน่นอน

การก่อการร้ายในเยเมน

การก่อการร้ายในเยเมน

         7. การก่อการร้ายในเยเมน เหตุการณ์นี้สืบเนื่องมาจากเมื่อปลายปีก่อน ที่เยเมนได้เผชิญกับกบฏมุสลิมนิกายชีอะห์ทางตอนเหนือของประเทศ และมีการประท้วงแบ่งแยกดินแดนทางตอนใต้ของประเทศ รวมถึงมีการประกาศจากนักรบโซมาเลีย ว่าจะเสริมกำลังให้กลุ่มอัลกออิดะห์ในเยเมน ทำให้กลุ่มประเทศพันธมิตรตะวันตกตื่นตระหนก กลัวว่าจะเกิดการก่อการร้ายขึ้นเหมือนเหตุการณ์ 911 อีกครั้ง จึงพยายามสนับสนุนให้รัฐบาลเยเมนแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่การก่อการร้ายในเยเมนยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

 เหตุการณ์การจลาจลในกรีซ

เหตุการณ์การจลาจลในกรีซ

         8. เหตุการณ์การจลาจลในกรีซ หลังจากที่กรีซประสบปัญหาวิกฤตทางการเงินขั้นรุนแรง ทำให้รัฐบาลมีมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหญ่ และด้วยมาตรการดังกล่าว ก่อให้เกิดการประท้วงจากประชาชนจำนวนมากได้รวมกลุ่มกันทำลายข้าวของ ห้างร้าน และที่อยู่อาศัยในเมือง จนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน และหลังจากเหตุการณ์การประท้วงครั้งนั้นเกิดขึ้น ก็ยังคงมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการประหยัดดังกล่าว

สงครามปราบยาเสพติดในเม็กซิโก

สงครามปราบยาเสพติดในเม็กซิโก

         9. สงครามปราบยาเสพติดในเม็กซิโก ดูเหมือนว่าจะเป็นการต่อสู้เพื่อปราบยาเสพติดที่ดุเดือดที่สุดในรอบ 10 ปี เมื่อทั้งรัฐบาลและพ่อค้ายาเสพติดได้ต่อสู้กันแบบ "แรงมา-แรงไป" ทำให้คนต่างด้าวในเม็กซิโกถูกแก๊งอาชญากรรมฆ่าโหดไปหลายร้อยราย ผลสุดท้ายแล้ว รัฐบาลก็สามารถกวาดล้างพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่บางส่วนได้ แต่ก็เป็นเพียง "บางส่วน" เท่านั้น สถานการณ์ยาเสพติดและอาชญากรรมในเม็กซิโก ก็ยังไม่มีอะไรดีกว่าเดิมมากนัก



เหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย



เหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย



เหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย



เหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย


          10. เหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในที่สุดเหตุการณ์ความรุนแรงจากกลุ่มคนเสื้อแดงก็ติดโผเป็นหนึ่งในสุดยอดเหตุการณ์ระดับโลกปีนี้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย จากการเผายางรถยนต์ เผาสถานที่ต่าง ๆ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายไม่น้อย อีกทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายอีกมาก ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและติดหนึ่งใน 10 เหตุการณ์เด็ด ที่ทั่วโลกต้องจดจำ

พบศพทารกถูกแม่ทำแท้งทิ้งท่อระบายน้ำ


พบศพทารกถูกแม่ทำแท้งทิ้งท่อระบายน้ำ
พบศพทารกถูกแม่ทำแท้งทิ้งท่อระบายน้ำ
เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.อากิม หมัดอาดำ ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่า พบศพเด็กทารกแรกเกิด อายุครรภ์ประมาณ 5 - 6 เดือน โผล่ออกมาทางท่อระบายน้ำทิ้งและมาตกค้างอยู่ที่พื้นด้านล่าง ซึ่งเป็นตรอกอยู่ระหว่างโรงแรมฮั้วอันกับโรงแรมผ่านฟ้า ตั้งอยู่ริมถนนสิริโรรส เขตเทศบาลนครยะลา หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา

ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นซอยตันและที่ท่อระบายน้ำของโรงแรมฮั้วอัน มีชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยกำลังมุงดูศพเด็กทารกเป็นจำนวนมาก ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ศพเด็กทารกมีอวัยวะครบถ้วนทุกอย่าง ถูกแม่ใจยักษ์ หรือ สาวใจแตก มาเช่าห้องพักโรงแรมดังกล่าวเพื่อทำแท้ง และเมื่อทำแท้งแล้วก็นำศพเด็กทารกทิ้งทางท่อระบายน้ำทิ้ง จากอ่างล้างมือบนห้องพัก เพื่อให้ศพเด็กไหลลงทางท่อน้ำทิ้ง ลงสู่บ่อพักด้านล่าง แต่เนื่องจากปลายของท่อน้ำทิ้งชำรุดแตกหัก ทำให้ศพเด็กหลุดมากองที่พื้นดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านที่มุงดูต่างพิพากษ์วิจารณ์กันไปว่า ศพเด็กทารกต้องการออกมาฟ้องให้เจ้าหน้าที่รู้ และดำเนินการกับแม่ใจยักษ์ต่อไป

TAG for ประท้วงลิเบีย

กัดดาฟีต้องลาออกใน 72 ชั่วโมง

แกนนำฝ่ายต่อต้านผู้นำลิเบียยื่นคำขาดให้พันเอกกัดดาฟีลงจากตำแหน่ง ภายใน 72 ชั่วโมง แกนนำฝ่ายต่อต้านผู้นำลิเบียยื่นคำขาดให้พันเอกกัดดาฟีลงจากตำแหน่งภายใน…

กัดดาฟี เตรียมเผ่นออกนอกประเทศ

สื่ออาหรับรายงาน ผู้นำลิเบียโยนหินถามทาง เตรียมออกนอกประเทศโดยได้รับประกันความปลอดภัยตนเองและครอบครัว…

ลิเบีย ตั้งกก.แก้ไขวิกฤตการณ์ชาติ

กลุ่มต้านลิเบียยึดคืนเมืองซาวิย่า แหล่งน้ำมันจากรัฐบาลได้ ขณะัที่คณะักรรมาธิการแห่งชาติประชุมตั้งกก.แก้วิกฤติชาติ…

ลิเบียวอนยูเอ็นยกเลิกคว่ำบาตรประเทศ

รัฐบาลลิเบียเรียกร้องให้สหประชาชาติระงับการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศ จากกรณีใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วง…

กว่า 20วัน กับการประท้วงในลิเบีย

การประท้วงขับไล่โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ที่ปกครองประเทศมา42ปี ดำเนินมากว่า 20วัน ขณะที่สถาณการณ์ยังคงเดิม…

ลิเบียยอมเปิดโต๊ะเจรจา โดยไร้ผู้ประท้วง

สถานการณ์การประท้วงในโลกอาหรับยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในบาห์เรนและโอมาน ขณะที่ ประธานาธิบดีโมอัมมาร์…

ลิเบียระอุ! อพยพแล้วนับแสน

UNHCR เผยมีผู้อพยพหนีสงครามกลางเมืองลิเบีย เข้า ตูนิเซีย-อียิปต์ เกือบ 1แสนคนแล้ว นานาชาติส่งเครื่องบินรับพลเมือง…

"กัดดาฟี" ชี้มาตรการลงโทษของ UN ถือเป็นโมฆะ

ผู้นำลิเบียแถลงโจมตีมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นชี้เป็นโมฆะ อ้างเป็นไปตามตามบทบัญญัติในกฎบัตรของสหประชาชาติ…

คณะมนตรีความมั่นคงมีมติเอกฉันท์คว่ำบาตร"กัดดาฟี่"

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คว่ำบาตรพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ที่ออกคำสั่งให้ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมประท้วง…

กัดดาฟี โผล่กลางจตุรัสสีเขียวลั่นให้อาวุธคนหนุน

โทรทัศน์ลิเบีย แพร่ภาพ กัดดาฟี  ผู้นำลิเบีย ปรากฎตัวที่กรีน สแควร์ พร้อมประกาศ เปิดคลังแสงติดอาวุธให้ผู้สนับสนุน…

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สาเหตุ
เหตุการณ์เริ่มมาจากการที่จอมพลถนอม กิตติขจร ทำการรัฐประหารตัวเองในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 โดยนักศึกษาและประชาชนมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจตนเองจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งในขณะนั้นจอมพลถนอมจะต้องเกษียณอายุราชการเนื่องจากอายุครบ 60 ปี อีกทั้งจอมพลประภาส จารุเสถียร บุคคลสำคัญในรัฐบาล ก็มิได้รับการยอมรับเหมือนจอมพลถนอม แต่กลับต่ออายุราชการให้ตนเอง ประกอบกับข่าวคราวเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นในวงราชการต่าง ๆ สร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่ประชาชน

[แก้] พ.ศ. 2516

29 เมษายน พ.ศ. 2516 เฮลิคอปเตอร์ทหารหมายเลข ทบ.6102 เกิดอุบัติเหตุตกที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม มีดาราหญิงชื่อดังในขณะนั้นคือ เมตตา รุ่งรัตน์ โดยสารไปด้วย มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 คน ในซากเฮลิคอปเตอร์นั้นพบซากสัตว์เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นซากกระทิง ที่ทางผู้ที่ใช้ล่ามาจากทุ่งใหญ่นเรศวรซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวน สร้างกระแสไม่พอใจในหมู่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นปลายเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนมิถุนายน นิสิตนักศึกษากลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติฯ 4 มหาวิทยาลัยได้ออกหนังสือชื่อ บันทึกลับจากทุ่งใหญ่[1] เปิดโปงเกี่ยวกับกรณีนี้ ผลการตอบรับออกมาดีมาก จนขยายผลโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงกลุ่มหนึ่งออกหนังสือชื่อ มหาวิทยาลัยที่ไม่มีคำตอบ เป็นผลให้ ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันดร์ อธิการบดีสั่งลบชื่อนักศึกษาแกนนำ 9 คนออก ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงจนนำไปสู่การชุมนุมในวันที่ 21 และ 22 มิถุนายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ท้ายสุด ดร.ศักดิ์ ต้องยอมคืนสถานะนักศึกษาทั้ง 9 คน และดร.ศักดิ์ ก็ได้ลาออกไปเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

[แก้] เริ่มต้นเหตุการณ์

6 ตุลาคม มีบุคคลร่วมลงชื่อ 100 คน เพื่อเรียกร้องขอรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลหลากหลายอาชีพ หลายวงการ เช่น นักวิชาการ นักการเมือง นักคิด นักเขียน นิสิต นักศึกษา เป็นต้น จากนั้น บุคคลเหล่านี้ราว 20 คน นำโดย นายธีรยุทธ บุญมี ได้เดินแจกใบปลิวเรียกร้องรัฐธรรมนูญตามสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เช่น ประตูน้ำ, สยามสแควร์, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยอ้างถึงใจความในพระราชหัตถ์เลขาของรัชกาลที่ 7 ที่ส่งถึงรัฐบาลถึงสาเหตุที่ทรงสละราชสมบัติ แต่ทางตำรวจนครบาลจับได้เพียง 11 คน และจับขังทั้ง 11 คนนี้ไว้ที่โรงเรียนตำรวจนครบาลบางเขนและนำไปขังต่อที่เรือนจำกลางบางเขน พร้อมตั้งข้อหาร้ายแรงว่า เป็นการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ โดยห้ามเยี่ยม ห้ามประกันเด็ดขาด จากนั้นจึงได้มีการประกาศจับ นายก้องเกียรติ คงคา นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และตามจับ นายไขแสง สุกใส อดีต ส.ส.จ.นครพนม ขึ้นอีก รวมทั้งหมดเป็น 13 คน โดยกล่าวหาว่า นายไขแสงเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแจกใบปลิวครั้งนี้ ซึ่งบุคคลทั้ง 13 นี้ ได้ถูกเรียกขานว่าเป็น "13 ขบถรัฐธรรมนูญ" ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สร้างความไม่พอใจให้เกิดขึ้นครั้งใหญ่แก่มวลนักศึกษาและประชาชนอย่างมาก จนนำไปสู่การชุมนุมใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงของการสอบกลางภาคด้วย แต่ทางองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้ประกาศและติดป้ายขนาดใหญ่ไว้ว่า "งดสอบ" พร้อมทั้งยื่นคำขาดให้ทางรัฐบาลปล่อยตัวทั้งหมดนี้ก่อนเที่ยงวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม แต่เมื่อถึงเวลาแล้วรัฐบาลก็หาได้ยอมกระทำไม่

[แก้] การจลาจล

การเดินขบวนครั้งใหญ่จึงเริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ออกไปตามถนนราชดำเนิน สู่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีแกนนำเป็นนักศึกษาและมีประชาชนเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก (คาดการกันว่ามีราว 500,000 คน) แกนนำนักศึกษาได้เข้าพบเจรจากับรัฐบาลและบางส่วนได้เข้าเฝ้า ฯ จนได้ข้อยุติเพียงพอที่จะสลายตัว แต่ทว่าด้วยอุปสรรคทางการสื่อสารและมวลชนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากไม่อาจควบคุมดูแลได้หมด ก็นำไปสู่การนองเลือดในเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม เมื่อเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่บริเวณหน้าพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ด้านถนนราชวิถีตัดกับถนนพระราม 5 เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมจะสลายตัวกลับทางนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ผ่าน จึงเกิดการปะทะกันจนกลายเป็นการจลาจล และลุกลามไปยังสนามหลวง, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และถนนราชดำเนิน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เวลาบ่าย พบเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินวนอยู่เหนือเหตุการณ์และมีการยิงปืนลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นเพื่อสลายการชุมนุม โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าบุคคลที่ยิงปืนลงมานั้นคือ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร
ต่อมาในเวลาหัวค่ำ วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยประกาศว่า จอมพลถนอม ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว และมีพระบรมราชโองการโปรดแต่งตั้ง นายสัญญา ธรรมศักดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีพระราชดำรัสแถลงออกโทรทัศน์ด้วยพระองค์เอง แต่ทว่าเหตุการณ์ยังไม่สงบโดยกลุ่มทหารได้เปิดฉากยิงเข้าใส่นักศึกษาและประชาชนอีกครั้งหลังจากพระราชดำรัสทางโทรทัศน์เพียงหนึ่งชั่วโมงเมื่อนักศึกษาพยายามพุ่งรถบัสที่ไม่มีคนขับเข้าใส่สถานีตำรวจ ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยเนื่องจากผู้ชุมนุมนับพันยังไม่วางใจในสถานการณ์ได้มีการประกาศท้าทายกฎอัยการศึกในเวลา 22.00 น. และ ประกาศว่าจะอยู่ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยทั้งคืนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ถูกหลอกอีกครั้ง ซึ่งในตอนหัวค่ำวันที่ 15 ได้มีประกาศว่า จอมพลถนอม จอมพลประภาส และ พ.อ.ณรงค์ ได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว เหตุการณ์จึงค่อยสงบลง และวันที่ 16 ตุลาคม ผู้ชุมนุมและประชาชนต่างพากันช่วยทำความสะอาดพื้นถนนและสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย

[แก้] หลังเหตุการณ์

ภายหลังเหตุการณ์นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่าง ๆ และสำหรับผู้เสียชีวิตทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตที่ทิศเหนือท้องสนามหลวงด้วย และอัฐินำไปลอยอังคารด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา อ่าวไทย
คณะรัฐมนตรี มีมติให้ก่อสร้าง อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ขึ้นที่ สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง โดยกว่าจะผ่านกระบวนต่าง ๆ และสร้างจนแล้วเสร็จนั้น ต้องใช้เวลาถึง 28 ปี
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญประกอบด้วยประชาชนต่าง ๆ จากหลายภาคส่วน โดยไม่มีนักการเมืองร่วมอยู่ด้วยเลย และใช้สนามม้านางเลิ้งเป็นสถานที่ร่าง โดยเรียกกันว่า "สภาสนามม้า" จนนำไปสู่การเลือกตั้งในต้นปี พ.ศ. 2518 ซึ่งในช่วงระยะเวลานั้น มีคำเรียกว่าเป็นยุค "ฟ้าสีทองผ่องอำไพ" แต่ทว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ในประเทศยังไม่สงบ มีการเรียกร้องและเดินขบวนของกลุ่มชนชั้นต่าง ๆ ในสังคม ประกอบกับสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศรอบด้าน แม้รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งก็ไม่มีเสถียรภาพเพียงพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ จนนำไปสู่เหตุนองเลือดอีกครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เมื่อปี พ.ศ. 2519 คือ เหตุการณ์ 6 ตุลา
นอกจากนี้แล้วเหตุการณ์ 14 ตุลา นับเป็นการลุกฮือของประชาชน (People's uprising) ครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จในยุคศตวรรษที่ 20 และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาคประชาชนในประเทศอื่น ๆ ทำตามในเวลาต่อมา เช่น ที่ เกาหลีใต้ในเหตุการณ์จลาจลที่เมืองกวางจู เป็นต้น[2]